Thursday, 13 April 2017

SAMA'S Story:รีวิวกลับบ้านสงกรานต์ มธ.รังสิต-สมุทรสงคราม ในราคา 88 บาท!!!




        สุขสันต์วันสงกรานต์ครับทุกคน ขอให้เป็นวันสงกรานต์ที่มีความสุข เดินทางปลอดภัย สุขภาพแข็งแรง สมปรารถนากันทุกคนครับ :D



        ห่างหายจากบล็อกไปเสียนาน หยุดยาวสงกรานต์เลยถือโอกาสหาอะไรมาเขียนซะเลย ไหนๆก็กลับบ้านแล้วรีวิวกลับบ้านเลยก็แล้วกัน แต่การกลับบ้านของผมครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนๆน่ะสิ อย่าเสียเวลาเลยตามผมมาเลยดีกว่า !!!!
        ตอนนี้ผมก็ใช้ชีวิตนักศึกษาปี 1 มาได้เศษ 3 ส่วน 4 แล้ว ภาคเรียนที่ 2 เต็มไปด้วยวันหยุดยาว แต่ยาวที่สุดก็คงหนีไม่พ้นช่วงเทศกาลสงกรานต์ เทศกาลที่ทำให้บรรยากาศในมหา'ลัยวิเวกจนน่าฝึกวิปัสสนา ร้านอาหารที่เปิดขายเพียงสองสามร้าน บรรยากาศหอในที่ตอนนี้เปรียบเสมือนหอส่วนตัว เพราะอยู่กันไม่ถึงร้อยละ 50 บรรยากาศเหงาๆท่ามกลางฤดูร้อนที่ร้อนระอุเช่นนี้แล้วทำให้ผมรู้สึกเหงาไม่ลง 5555 แต่ยังไงทุกคนก็มีบ้านให้กลับ อย่าอยู่มหา'ลัยให้เปลืองเงินตัวเองต่อไปเลย กลับบ้านสิครับรออะไร จาก มธ.รังสิต ไปบ้านผม(สมุทรสงคราม) ปกติแล้วใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง (โดยรถตู้ 2 สายและรถเมล์ฟรี ขสมก.อีก 1 สาย)  กลับบ้านครั้งนี้ผมก็จะใช้วิธีเดิมครับเริ่มต้นด้วย
  •         11:20 นั่งรถตู้มธ.รังสิต-อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ราคา 35 บาท ใช้เวลาประมาณ 40-60 นาที ขึ้นอยู่กับสภาพจราจร
  •        12:25 ถึงอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
         แต่ทว่าอาหารกลางวันก็ยังไม่ได้กิน เลยหาอะไรกินแถวอนุเสาวรีย์ฯ พอกินเสร็จแล้วผมก็เดินตามทางเดินลอยฟ้า (Skywalk) ไปเกาะพหลโยธินเพื่อรอรถเมล์ฟรี ขสมก.ไปสถานีขนส่งสายใต้(ปิ่นเกล้า) เพื่อต่อรถตู้ไปแม่กลองอย่างที่เคยทำ เนื่องจากเป็นเทศกาลสงกรานต์จึงมีผู้คนยืนรอรถเมล์ฟรีอย่างล้นหลาม ด้วยความที่แบกแล็ปท็อป(คอมพิวเตอร์วางตักบัญญัติโดยราชบัณฑิตยสภา)และกระเป๋าเป้ที่เต็มไปด้วยการบ้านวันหยุดยาว ประกอบกับความขี้เกียจยืนรถเมล์ทำให้เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาในสมอง "ถ้างั้นนั่งรถตู้ขสมก.จากอนุเสาวรีย์ฯไปมหาชัย นั่งเรือข้ามแม่น้ำท่าจีน แล้วขึ้นรถไฟฟรีกลับบ้านแล้วกัน"
       
บรรยากาศอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิวันที่ 12 เมษายน 2560

        คิดได้เช่นนั้นแล้วขาของผมจึงก้าวพาผมไปขึ้นรถตู้สายอนุเสาวรีย์ชัยฯ-มหาชัยทันที ทิ้งความเสียดายรถเมล์ฟรีไว้เบื้องหลัง นี่เป็นครั้งแรกของผมทีจะได้นั่งรถไฟกลับบ้านด้วยสิ จะรู้ทางหรอวะ 5555
  • 14:20 ออกจากอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิโดยรถตู้สายอนุเสาวรีย์ชัยฯ-มหาชัย ค่าโดยสาร 50 บาท
  • 14:50 ถึงมหาชัยโดยสวัสดิภาพ
        ถนนพระราม 2 การจราจรปลอดโปร่งกว่าที่คิดทำให้มาถึงมหาชัยภายในครึ่งชั่วโมง รถตู้จอดที่ท่ารถตู้เยื้องวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร ท่ามกลางอากาศกลางเดือนเมษายนและฝุ่นควันมากมายตามประสาเมืองโรงงานอย่างมหาชัย เป้าหมายต่อไปต้องหาทางไปท่าเรือข้ามฝากให้ได้ เอาแล้วสิ การผจญภัยเริ่มขึ้นแล้ว จากที่ผมเคยอ่านรีวิวจากอินเทอร์เน็ตมาบ้างทำให้พอเดาทางได้ เดินตรงไปตามถนนสายหลักเรื่อยๆไม่เกิน 500 เมตรก็ถึงท่าเรือข้ามฝากครับ


หน้าตาท่าเรือข้ามฝาก

ท่าเรือมองเห็นได้จากคิวรถตู้ครับ เด่นมากๆ ถ้าไม่แน่ใจถามคนแถวนั้นได้

ค่าบริการข้ามฝาก 3 บาท/เที่ยว

เรือจอดอยู่แล้วไม่ต้องรอ โชคดีจริงๆ

บรรยากาศภายในเรือ มีทั้งผู้โดยสารและรถมอเตอร์ไซค์
แม่น้ำท่าจีนช่วงบ่าย แสงแดดกระทบผืนน้ำเป็นประกาย






2-3 นาทีก็ถึงทาเรือท่าฉลอมแล้ว

        ถึงท่าเรือท่าฉลอมแล้ว สถานีรถไฟบ้านแหลมอยู่ตรงไหน เพิ่งเคยมาครั้งแรกด้วย 55555 สัญชาตญาณบอกผมให้เดินตรงไปครับ บริเวณท่าเรือมีของขายอยู่ประปรายเดินมาสักพักก็จะเจอสี่แยก ให้เลี้ยวขวาจะมีป้ายบอกทางไปสถานีรถไฟบ้านแหลมครับ เดินตรงไปเรื่อยๆประมาณ 700 เมตรตัดผ่านวัดแหลมสุวรรณารามจนสุดถนนก็จะถึงสถานีรถไฟบ้านแหลมครับ

เดินตรงจากท่าเรือท่าฉลอมจะเจอสี่แยกให้มองไปทางขวาจะเจอป้ายบอกทางไปสถานีรถไฟบ้านแหลมครับ

ตัดผ่านชุมชนที่ส่วนใหญ่ขายอาหารทะเลตากแห้งและวัดแหลมสุวรรณาราม

เดินตรงไปจนสุดถนนในที่สุด ถึงแล้ว สถานีรถไฟบ้านแหลม

        สถานีรถไฟบ้านแหลมสถานีรถไฟเล็กๆในช่วงก่อนวันสงกรานต์หนึ่งวันบรรยากาศเงียบเหงา ผมเดินมาถึงสถานีรถไฟราว 15:30น. รถไฟจะมาถึง 16:30น. เท่ากับว่าต้องรอรถไฟหนึ่งชั่วโมงเป็นรถไฟที่ยวสุดท้ายของวันพอดีเลย 555 การรอรถไฟของผมไม่น่าเบื่ออย่างที่คิดแม้อากาศจะร้อน แต่กาแฟเซเว่นยังไม่หมดอีกทั้งที่สถานีรถไฟยังมีโทรทัศน์ให้ดูในตอนนั้นกำลังฉายรายการดิสนีย์คลับอยู่พอดีดูการ์ตูนรอแล้วกัน บรรยากาศรอบสถานีรถไฟติดกับวัดแหลมสุวรรณารามและแม่น้ำท่าจีน ขณะเหลือบมองเวลาก็พบว่าเหลืออีก 10 นาทีรถไฟจะมาถึง จึงรีบเดินไปถ่ายรูปรอบๆสถานีรถไฟบ้านแหลม




อากาศร้อน แต่บรรยากาศสงบๆช่วยทำให้เย็นลงได้ครับ


อาคารสถานีสวยคลาสสิกดีครับ

วิวแม่น้ำท่าจีนด้านข้างสถานีรถไฟบ้านแหลม

        ในที่สุดรถไฟก็มาสักทีมาตรงเวลาเป๊ะเลย รถไฟทาสีใหม่แดงสดใสเชียว รถไฟวันนี้คนขึ้นไม่เยอะไม่มีนักท่องเที่ยวเลยครับ มีแต่คนพื้นที่ทั้งนั้น ทำให้ได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านรอบๆทางรถไฟสายบ้านแหลม-แม่กลอง ทางรถไฟที่มีอายุกว่าร้อยปีนี้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น แม้ว่ากาลเวลาจะหมุนผ่าน ถนนพระรามสองที่ใหญ่โตกว้างขวางทำให้การเดินทางจากสมุทรสงครามไปกรุงเทพมหานครเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ทางรถไฟสายนี้ที่เคยเป็นเส้นทางหลักของชาวแม่กลองเข้าสู่เมืองหลวงจึงถูกลดความสำคัญลงไป ชุมชนแออัดริมทางรถไฟขยายตัว ถนนเริ่มเข้ามาตัดผ่านขนาบข้างทางรถไฟ ป่าชายเลนริมทางรถไฟเสื่อมโทรมเพราะการขยายตัวของการทำนาเกลือ บ่อกุ้งและโรงงงานอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้ยังมีชาวบ้านริมทางรถไฟบางส่วนโดยสารรถไฟสายนี้ไปเรียนและทำงานอยู่ อีกทั้งแม้อากาศจะร้อนและแดดรุนแรงเพียงใดแต่บางส่วนของป่าชายเลนที่สมบูรณ์ก็ช่วยให้อากาศเย็นลงได้

        สถานีรถไฟรายทางที่เคยรุ่งเรืองในอดีตตอนนี้เป็นเพียงศาลารอรถไฟเล็กๆ ทิวทัศน์สองข้างทางส่วนใหญ่เป็นนาเกลือ บ่อกุ้งและบ่อปลาสลับป่าชายเลนบ่งบอกถึงสภาพภูมิศาสตร์ที่อยู่ติดทะเลและอาชีพของชาวบ้านที่ทำประมงเป็นหลัก บางส่วนเป็นชุมชนและวัดสะท้อนให้เห็นถึงชาวบ้านส่วนใหญ่ที่นับถือพุทธศาสนา บ้านส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้สลับบ้านแบบตะวันตกบางส่วนเป็นบ้านทรงไทยเก่าแก่ที่สร้างมาให้เหมาะกับภูมิอากาศที่มีลมทะเลพัดมาตลอดเวลาในช่วงกลางวัน ป่าชายเลนส่วนใหญ่เสื่อมโทรมและมีขยะเต็มไปหมดแสดงให้เห็นว่าในอดีตป่าชายเลนแถบนี้มีพื้นที่กว้างขวางเพียงใด แต่ปัจจุบันก็เสื่อมโทรมตามวัฏจักรควรมีการปกป้องอย่างจริงจังได้แล้ว
        ต่อจากนี้ไปขอเล่าเรื่องราวผ่านทิวทัศน์รายทางรถไฟนะครับ ภาพเยอะเหลือเกิน



  • 16:40 รถไฟออกจากสถานีรถไฟบ้านแหลม ราคา 0 บาท








มีวัดก็ต้องมีตลาดนัด

ขยะรายทางที่พบเห็นได้ทั่วไป กับถนนที่ตัดขนาบข้างทางรถไฟ


พื้นที่นาเหลือ และโรงงานอุตสาหกรรม


ป่าชายเลนที่เสื่อมโทรม

ดงต้นจาก

บ้านเรือนของชาวบ้านที่มีหน้าต่างเยอะ ช่วยรับลมทะเลทำให้บ้านไม่ร้อน

 สถานีย่อยๆในปัจจุบัน


ชาวบ้านรอขึ้นรถไฟ

บ่อเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลาของชาวบ้าน



นาเกลือออ














พระอาทิตย์จะตกดินแล้ว ฝูงนกกำลังบินกลับรัง

 ยุ้งฉางเก็บเกลือ

ชุมชนที่รุกล้ำพื้นที่ป่าชายเลน


ด้านหลังเรือนจำกลางจังหวัดสมุทรสงคราม

มีต้นไม้บังแดด ค่อยยังชั่ว

เริ่มเข้าเขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม



ถะ ถึงแล้ว!!

สุดสายปลายทาง เบื้องหน้าคือแม่น้ำแม่กลอง


ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลองยามเย็น

  • 17:37 ถึงสถานีรถไฟแม่กลอง
        รถไฟใช้เวลาราว 57 นาทีก็ถึงสถานีรถไฟแม่กลองครับ ถึงก่อนกำหนด 3 นาที ช่วงวิ่งผ่านตลาดร่มหุบผมถ่ายเป็นคลิปไว้เลยไม่มีรูปภาพ นักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นส่วนใหญ่ต่างแบกกล้องน้อยใหญ่มาเก็บภาพบรรยากาศช่วงที่รถไฟแล่นเข้าไปในกลางตลาดร่มหุบ แม่ค้าพ่อค้าทั้งหลายต่างรู้จังหวะหุบร่มหลีกทางให้รถไฟผ่านอย่างชำนาญ ที่สถานีรถไฟแม่กลองเบื้องหน้าติดกับแม่น้ำแม่กลองที่ตอนนี้ดวงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าสร้างความประทับใจให้ผู้พบเห็นยิ่งนัก สายน้ำดูงดงามกว่าที่เคย รางรถไฟเองก็สุดสายที่นี่ เมื่อรถไฟจอดมีนักท่องเที่ยวชาวจีนอีกเช่นเคยต่างเตรียมท่าโพสสุดโก้กับรถไฟมาอย่างดี นักท่องเที่ยวเหล่านี้น่ารักมากเพราะนอกจากจะนำรายได้เข้าสู่ชาวบ้านแล้ว ยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับแม่กลองเมืองเล็กๆแห่งนี้ให้ขจรขจายไปยังต่างแดนอีกด้วย

      สรุปค่าใช้จ่าย
  1. รถตู้ มธ.รังสิต-อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 35 บาท
  2. รถตู้ อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-มหาชัย 50 บาท
  3. เรือข้ามฝาก มหาชัย-ท่าฉลอม  3 บาท
  4. รถไฟท้องถิ่นขบวน 4387 บ้านแหลม-แม่กลอง 0 บาท
       รวม 88 บาท!




 ขอบคุณครับที่มาส่ง /\


       มาถึงสักทีผจญภัยมาทั้งวัน ใครอ่านมาถึงตรงนี้ก็ขอบคุณนะครับ สุดท้ายนี้สุขสันต์วันสงกรานต์ กลับบ้านปลอดภัย ขอให้มีความสุขกับครอบครัวมากๆ สุขภาพร่างกายแข็งแรง คิดหวังสิ่งใดขอให้สมปรารถนากันทุกคนนะครับ แล้วพบกันใหม่ในเอนทรี่หน้าถ้ามีอะไรอยากเล่า 5555  สวัสดีครับ.....

ปล.แถมรูปเมืองแม่กลองยามเย็นให้ชม






Related Articles

1 comment:

  1. อยากให้พาไปนั่งรถไฟอีกครับ ชอบๆๆๆๆ

    ReplyDelete