Sunday, 24 April 2016

SAMA'S Story: พาล่องใต้! [EP.2 มาซิเชิญมาดู ชมดอกประดู่ที่เมืองยะลา!]

    

      สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกแล้วสำหรับกระทู้พาเที่ยวยะลาของผม อย่างไรก็ดีขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามผมจนมาถึง EP. นี้ ♥ ช่วงนี้อากาศร้อนมากๆเลย หลังจากกลับมาจากใต้รู้เลยว่า ฤดูร้อนที่ภาคใต้อากาศสบายที่สุดแล้ว (55555) พี่น้องที่อยู่ทางภาคเหนือ อีสาน และภาคกลางตอนบน ก็ดูแลรักษาสุขภาพดีๆนะครับ ช่วงนี้เกิดพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่มาก ดูข่าวแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้ บางพื้นที่ถึงขั้นมีลูกเห็บตกกันเลยทีเดียว ก่อนออกจากบ้านอย่าลืมเช็คสภาพอากาศด้วยนะครับ ด้วยความปรารถนาดีจากผมเอง! เอาล่ะครับท่านผู้อ่าน นอกทริปของเราไปไกลโพ้นถึงอินโดนีเซียไปแล้ว เรากลับเข้ามาสู่ยะลากันต่อดีกว่า ตามมาเลยครับ!



      วันที่ 11 เมษายน 2559: หลังจากที่ผมหยิบกระเป๋าและสัมภาระของฝากต่างๆนานาลงจากรถเสร็จเรียบร้อย สิ่งแรกที่ผมทำเมื่อมาถึงยะลา คือการ check-in ลง Facebook ครับ (5555) ล้อเล่น สิ่งแรกที่ทำคือเข้าอินเทอร์เน็ตทางโทรศัพท์เพื่อเช็คดูว่าผลคะแนน Gat-Pat รอบที่ 2 ประกาศหรือยัง เพราะ สทศ. บอกว่าจะประกาศวันที่ 12 เมษายน 2559 ซึ่งโดยปกติแล้วมักประกาศผลสอบล่วงหน้าวันจริงก่อน 1 วัน สร้างความตื่นเต้นให้แก่เด็กม.6 ทั่วประเทศได้ดีนักแล เด็กหนุ่มสัมผัสนิ้วลงบนโทรศัพท์มือถือหน้าจอสัมผัสอย่างแผ่วเบา เหงื่อของเขาไหลหลากลงมาจนท่วมมือ หัวใจของเขาเต้นรัวจนผิดจังหวะ เด็กหนุ่มเลื่อนหน้าจออย่างใจจดใจจ่อ ไม่ว่าผลสอบจะเป็นอย่างไร ผมต้องยอมรับมันให้ได้ หน้าจอเด้งขึ้นหน้าต่างใหม่อย่างรวดเร็วและแล้วก็ "ยังไม่ประกาศผลครับ!!!" ครับผมดีใจมากที่ยังไม่ประกาศ แต่อีกด้านหนึ่งของจิตใจก็อยากรู้ให้มันจบๆ คะแนนครั้งนี้มันชี้เป็นชี้ตายโอกาสในการแอดติดคณะที่ผมอยากเข้า ซึ่งคะแนนสูงมากๆๆๆๆๆๆๆ เด็กหนุ่มคนนั้นที่เพิ่งดีใจกลับมีความกังวลในใจอีกครั้ง แล้วถ้าคะแนนออกมาไม่ดีล่ะ? ทำใจครับ "สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต บางครั้งมีสุข บางครั้งทุกข์บ้าง แต่ว่าทุกสิ่งไม่จีรัง" ประโยคๆนี้ดังก้องในหัวของผม เนื่องจากปิดเทอมผมได้กลายมาเป็นแฟนคลับซีรีส์พระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลก ทำให้ผมได้รับข้อคิดดีๆมากมายในการใช้ชีวิต ประโยคนี้ทำให้ผมปล่อยวางได้และรู้สึกสนุกกับปัจจุบันมากขึ้น เรามาเยี่ยมญาติ เรากลับมายะลา ที่จากมานาน เราไม่ควรนำความกังวลในสิ่งที่ยังไม่เกิดมาฉุดผมให้มัวหมอง ขออนุโมธนาองค์พระเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาก แนวคิดในการใช้ชีวิตของท่านช่างเรียบง่าย แต่ปฏิบัติตามได้ยากนัก โอ้! นี่ผมนอกเรื่องมาไกลถึงออสเตรเลียแล้วหรือนี่ (5555)
      คุณยายของผมปัจจุบันอาศัยอยู่กับคุณน้าครับ ตอนนี้คุณยายเกษียณแล้ว ท่านจึงรับดูแลแม่ของเพื่อนสนิทซึ่งเป็นโรคอัลไซเมอร์ ผมขอเรียกท่านว่า ทวดนะครับ ทวดอายุ 86 ปีแล้วแต่ยังเดินเหินคล่องแคล่ว ทานข้าวเองได้ ไม่มีอาการอาละวาด ทำลายข้าวของแต่อย่างใด ท่านชอบร้องเพลงครับ ท่านร้องมโนราห์แทบทั้งวัน ทำให้ยายผมไม่เหงาเลยครับ (55555) ทุกๆ 5 โมงเย็น คุณยาย จะพาทวดไปเดินเล่นนอกบ้าน สูดอากาศบริสุทธิ์ และทวดแกรู้งานครับ พอเวลา 5 โมงเย็นปุ๊บ แกจะเรียกคนในบ้านแล้วพูดว่า "ไป! ไป! ไป!"เป็นสัญญาณว่าถึงเวลาแกต้องไปเดินแล้ว (5555) ทวดเป็นอัลไซเมอร์จึงจำใครไม่ได้ แต่แกไม่เคยลืมชื่อลูกของแกเลย!
      วันนี้หลังจากเก็บของเสร็จเรียบร้อย คุณยายบอกว่าจะพาพวกผมไปไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองกันครับ พาทวดไปด้วย^^ ศาลหลักเมืองยะลาตั้งอยู่ตรงวงเวียนจุดศูนย์กลางเมืองเลยครับ โดยรอบศาลหลักเมืองมีการทำเป็นสวนหย่อม มีบ่อเลี้ยงปลา มีสนามเด็กเล่น มีที่นั่งใต้ร่มไม้ ให้คนที่มาเคารพสักการะได้พักผ่อนหย่อนใจกัน แถมเด็กๆยังได้ทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวคือการให้อาหารปลาด้วยนะครับ เป็นภาพบรรยากาศที่อบอุ่นเลยทีเดียว กล่าวได้ว่า ศาลหลักเมืองถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวยะลา ทั้งชาวไทยพุทธ ไทยจีน และไทยมุสลิมไม่มีแบ่งแยกอย่างแท้จริง เพราะทุกคนสามารถมากราบไหว้บูชา ทำกิจกรรมครอบครัว มานัดพบ สังสรรค์ หรือปิคนิคกันได้ที่นี่
      ถนนบริเวณศาลหลักเมืองสวยงามมากครับ ผมชอบเมืองยะลาตรงที่ถนนสายหลักมีทางสำหรับปั่นจักรยาน และปลูกต้นไม้ใหญ่ทั้งสองฝั่งถนน ทำให้อากาศในเมืองยะลาไม่ร้อนอบอ้าว มองไปทางไหนก็เขียวสบายตาครับ ทุกๆเย็นจะมีคนมาปั่นจักรยานที่ทางจักรยาน ถนนก็เต็มไปด้วยต้นไม้ ดูแล้วช่างเป็นภาพที่อบอุ่น สงบ และดูยะลาน่าอยู่มากครับ ภาพจำที่มองว่าคนยะลาอยู่กันอย่างหวาดระแวงสลายไปเลยครับ ผู้คนที่นี่ยังดำเนินชีวิตกันตามปกติ "เคล็ดลับของชีวิตคือการเป็นอิสระจากความกลัว ไม่มีใครล่วงรู้อนาคตได้ไม่ว่าเราหรือท่าน" คำสอนของพระพุทธเจ้านำมาใช้ได้เสมอครับ เราไม่จำเป็นต้องกลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิด แต่จงใช้ชีวิตในปัจจุบันด้วยความไม่ประมาท ผมเชื่อว่าถ้าใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ภัยใดก็ไม่อาจมาทำร้ายเราได้ครับ! เอาล่ะมาชมภาพบรรยากาศศาลหลักเมืองยะลากัน!
ปล.กว่าจะพาทวดแกขึ้นฟุตปาธ (ตามหลักราชบัณฑิตยสภา) มาได้ก็ทุลักทุเลพอดู (5555)

ทางเข้าศาลหลักเมืองครับ

ถนนด้านหน้าศาลหลักเมือง มุมมองหันหลังให้ประตูทางเข้าครับ

อ่านซะๆ (55555)

คุณทวด กำลังทักทายกับ เพื่อนรุ่นลูกครับ 55555

ศาลาจำหน่ายดอกไม้ ธูปเทียน ไปสักการะเจ้าพ่อหลักเมืองครับ

 บรรยากาศสวนหย่อมครับ น่านั่งไหมครับ^^

ปลามันอิ่มแล้วหนู!

 บรรยากาศครอบครัวก็มา!

 ภาพมุมสูงหันหน้าให้กับทางเข้าครับ มีผู้คนมาสักการะไม่ขาดสาย

 ธีมครอบครัวสุขสันต์ก็มานะครับ น่ารักมาก^^

พาโนรามาก่อนกลับครับ !

      ผมได้ขึ้นไปสักการะศาลหลักเมืองมาด้วยครับ นำบุญมาฝากทุกท่านที่มาอ่านเอนทรี่นี้ทุกท่านด้วยนะครับ :) "สาธุ ขอให้คะแนนลูก ออกมาปังพอที่จะแอดติดคณะในฝันด้วยเถิด" หลังจากออกจากศาลหลักเมืองก็เป็นเวลา 17 นาฬิกา 30 นาที คุณยายจะพาทวด ไปเดินออกกำลังกายที่ โรงเรียนเก่าผมและแม่ผมครับ และเป็นสถานที่ที่ยายเคยทำงาน "โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา" โรงเรียนที่เก่าแก่ที่สุดของจังหวัดยะลา ซึ่งเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรทางการศึกษาให้แก่เด็กในจังหวัดยะลา และจังหวัดข้างเคียงมากว่า 107 ปีแล้วครับ เคยเป็นโรงเรียนชายล้วนประจำจังหวัดยะลาครับ (ปัจจุบันเป็นโรงเรียนสหศึกษา) เคียงคู่กับโรงเรียนสตรียะลา ซึ่งเป็นโรงเรียนหญิงล้วนประจำจังหวัด (ปัจจุบันเป็นสหศึกษาแล้วเช่นกันครับ) ผมภูมิใจมากครับที่มีโอกาสได้เรียนที่โรงเรียนแห่งนี้เป็นเวลา 1 ปี (ชั้นม.1) ก่อนที่จะย้ายมาเรียนที่จังหวัดสมุทรสงคราม รสอาหารในโรงอาหารโรงเรียนแห่งนี้ยังคงติดอยู่ที่ลิ้นของผมมาจนถึงปัจจุบันครับ คิดถึงซูชิ ติ่มซำร้านป้าอ๊อด คิดถึงก๋วยเตี๋ยวบุฟเฟ่ต์ร้านป้านา(เลือกตักกับท็อปปิ้งใส่เองตามความชอบ) คิดถึงเหนียวไก่ คิดถึง... คิดถึงทุกร้านเลยครับ (55555) จากศาลหลักเมืองขับวนรอบวงเวียนศาลหลักเมืองแล้วตรงไปยังถนนพิพิธภักดี ถนนที่ครั้งหนึ่งในฤดูร้อนจะเต็มไปด้วยดอกประดู่สีเหลืองบานสะพรั่งไปทั่วถนนสายนี้ สมดังท่อนสร้อยของเพลงยะลาเพลินใจที่ว่า "มาซิเชิญมาดู ชมดอกประดู่ที่เมืองยะลา *เหลืองอร่ามสวยงามจับตา เที่ยวเมืองยะลา เพลินตาเพลินใจ" ปัจจุบันเหลือเพียงแต่ต้นอ่อนของต้นประดู่ที่กำลังปลูกใหม่ เนื่องจากต้นเก่าๆถูกศัตรูพืชกัดกินลำต้นจนเสียหายครับ  มาชมภาพของถนนพิพิธภักดีในอดีตและปัจจุบันกันครับ


อุโมงค์ต้นประดู่ถนนพิพิธภักดีในอดีตครับ เครดิต:https://www.facebook.com/ยะลาใต้สุดสยาม-เมืองงามชายแดน-333366990095552/timeline

ดอกประดู่กำลังร่วงสวยงามเชียว เครดิต:https://www.facebook.com/ยะลาใต้สุดสยาม-เมืองงามชายแดน-333366990095552/timeline

ดอกประดู่ร่วงลงมาเป็นพรมสีเหลืองเลยครับ เพลินตาเพลินใจจริงๆ เครดิต:https://www.facebook.com/ยะลาใต้สุดสยาม-เมืองงามชายแดน-333366990095552/timeline
ตรงนี้เป็นเลนปั่นจักรยานครับ ปั่นไปชมวิวเพลินเลยทีเดียว เครดิต:https://www.facebook.com/ยะลาใต้สุดสยาม-เมืองงามชายแดน333366990095552/timeline


ดอกประดู่กำลังร่วงช้าๆครับ เหมือนกำลังดูซีรีส์ญี่ปุ่นแล้วดอกซากุระร่วงยังไงยังงั้น (555) เครดิต:https://www.facebook.com/ยะลาใต้สุดสยาม-เมืองงามชายแดน-333366990095552/timeline

อ่า! ขับรถสบายเลย ^^ เครดิต:https://www.facebook.com/ยะลาใต้สุดสยาม-เมืองงามชายแดน-333366990095552/timeline
ถนนพิพิธภักดีในปัจจุบันครับ ^^

      "มาซิเชิญมาดู ชมดอกประดู่ที่เมืองยะลา *เหลืองอร่ามสวยงามจับตา เที่ยวเมืองยะลา เพลินตาเพลินใจ" หวังว่าอีกสัก 10 ปี 20 ปี ต้นประดู่ที่เพาะใหม่คงจะเติบโตและออกดอกสีเหลืองบานสะพรั่งปลุกเมืองยะลาให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งนึงนะครับ :) ขับจากถนนพิพิธภักดีตรงมาเรื่อยๆจะเจอสี่แยกไฟแดงหน้าปั้มคาลเท็กซ์ (caltex) ตรงออกมาจากสี่แยกก็จะพบกับป้ายทางเข้าโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลาครับ รถของคุณยายค่อยๆขับเข้าประตูโรงเรียนอย่างช้าๆ มีลุงยามใจดีมาเปิดประตูให้ แม้ว่าจะผ่านมากี่ปีโรงเรียนแห่งนี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยครับ ภาพวันเก่าๆเฝดเข้ามาในหัวผมมากมาย วันที่ปั่นจักรายานเล่นในโรงเรียนแล้วโดนสุนัขแม่ลูกอ่อนวิ่งไล่ วันที่ปั่นจักรยานลงเนินหน้าศูนย์กีฬาแล้วจักรยานล้มเพราะปั่นเร็วไป ระหว่างที่เด็กหนุ่มกำลังระลึกความหลัง รถของคุณยายก็มาจอดหน้าสนามฟุตบอลของโรงเรียน เด็กหนุ่มกลับเข้าสู่ความเป็นจริงอีกครั้ง แล้วมาช่วยจูงมือทวดลงจากรถ  ก่อนที่ยายจะจูงมือแกเดินออกกำลังกายทั่วทั้งโรงเรียน น้องชายของผมก็ไปเล่นกับคุณน้า คุณน้าผมรักน้องชายผมมากเพราะแกเลี้ยงมาตั้งแต่น้องผมยังเด็ก ส่วนผมกับแม่น่ะหรือ? ใช่ครับในฐานะศิษย์เก่าทั้งคู่พวกเราจึงไปตะลุยถ่ายรูปรำลึกความหลังกันครับ ว่าแล้วก็เชิญชมบรรยากาศโรงเรียนประจำจังหวัดยะลาแห่งนี้กันเลยครับ!

ร้านสะดวกซื้อหน้าโรงเรียนครับ

ป้ายหน้าโรงเรียน

วิวทิวทัศน์บริเวณสนามฟุตบอลครับ ตึกสูงๆนั่นคือโรงแรมชางลีครับ เป็นตึกที่สูงที่สุดในเมืองยะลา (ปัจจุบันได้ปิดตัวลงแล้ว และกำลังรีโนเวทใหม่เป็นอะไรต้องดูกันต่อไป)

จัดพาโนรามาสักหน่อยย

 ป้ายนิเทศ ลานไทร และหอประชุมครับ

สถานที่เคารพธงชาติ ลานเขียว-เหลือง (สีประจำโรงเรียน) และอาคาร 9 ครับ

มาปั่นรถถีบชมลานตะแบกกันเต๊อะ! (ผิดภาคแล้ว555)

สระบัวและศาลากลางน้ำ หลังอาคาร 9 ครับ

ฝักบัวที่นี่อร่อยมากครับ เมื่อก่อนผมใช้ไม้สอยมากินบ่อยๆ ^^

ที่นั่งพักผ่อนหลังจากเคร่งเครียดจากการเรียนครับ !

 อาคาร 6 ครับ เป็นอาคารเรียนวิทยาศาสตร์ทั้งอาคาร

อาคาร 12 อาคารเรียนคณิตศาสตร์ ชั้นล่างเป็นห้องสมุด ชั้นบนสุดเป็นของ English Programme ครับ


อาคาร 16 อาคารเรียนสังคมศึกษา ชั้นล่างเป็นห้องสภานักเรียน อยู่ด้านหลังอาคาร 12

และนี่คืออาคารหลังใหม่ล่าสุดครับ อาคาร 17! เดิมเป็นอาคารสหกรณ์ร้านค้า

ลาน100ปีครับ เป็นลานที่คึกคักมากที่สุด เพราะมีหลังคาบังแดด (รึเปล่า?) 5555

อาคารเรียนชั่วคราวครับ สีคลาสสิคดี เวลาฝนตกหนักนี่น้ำท่วมเข้าไปในห้องเรียนเลยครับ เรียนไปยกเท้าขึ้นหนีน้ำไป สนุกดีครับ (5555)

อาคารเรือนพยาบาล ที่ผมชอบแอบไปกินวิตามินซี เพราะมันอร่อย เคี้ยวแล้วเปรี้ยวๆดี ^^

อาคารเรียนการงานครับ

อาคารศูนย์กีฬาครับ อยู่หลังเรือนพยาบาล ข้างในมีสนามมวย สนามเทนนิส สนามแบต สนามบาส ครับ

โรงอาหารครับ (คิดถึงที่สุดดดด) ใครอยากตากลมมานั่งตรงนี้ ใครอยากนั่งตากพัดลมเชิญนั่งข้างในอาคาร

อาคาร 15 ครับเป็นอาคารหมวดศิลปะ ชั้นล่างเป็นห้องซ้อมดนตรี

 หลังอาคาร 11 ถนน และโรงอาหาร ^^

อาคาร 11 ครับ เป็นอาคารหมวดภาษาไทย และภาษาต่างประเทศ ห้องประจำผมอยู่อาคารนี้ ^^

อาคารหอประชุมทาสีใหม่ สวยเชียวว

ลานไทรหน้าอาคาร 11 ครับ

อาคาร 9 ครับ เป็นอาคารสำนักงาน ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ และห้องเรียนโครงการ SMA (โครงการห้องเรียนเสริมทักษะพิเศษทางวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์)ครับ

ทางเดินในอาคาร 9

สนามบาสเก็ตบอลครับ ด้านหลังเป็นโรงฝึกงานของวิชางานช่างครับ

ลานเขียว-เหลือง และสนามฟุตบอลครับ ^^

ปิดท้ายภาพเซตนี้ด้วยภาพเจ้าถิ่นครับ (5555)

      หลังจากที่ผมได้ปั่นจักรยานถ่ายรูปรอบโรงเรียนจนหนำใจมาแล้ว (จริงๆยังมีภาพอีกมากที่ไม่ได้ลง 5555) ผมก็มานั่งพักที่ลานเขียว-เหลือง ผมหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง สไลด์หน้าจอไปมาแล้วพบว่ามีสายที่ไม่ได้รับ 2 สาย เป็นเพื่อนสนิทของผมที่แม่กลองโทรมา ผมคาดว่าผลสอบ Gat-Pat ต้องประกาศแล้วแน่ๆเขาถึงโทรมา ผมจึงรีบโทรกลับไปในทันที เพื่อนของผมชิงถามผมก่อนเลยครับ "ดูคะแนนหรือยัง?" ผมแกล้งทำไร้เดียงสาถามกลับไปว่า "เห้ย! ประกาศแล้วหรอ?" "เออ ประกาศแล้ว เพิ่งประกาศเมื่อกี้อ่ะ" เพื่อนผมตอบ "แล้วคะแนนเป็นไงบ้าง ดีขึ้นป่ะ?" ผมถาม "Pat 7 ดีขึ้นนะ แต่ Gat น้อยลง" เพื่อนผมตอบ "อืมโอเค เดี๋ยวดูบ้างดีกว่า" ผมพูดก่อนที่จะวางสายโทรศัพท์ไป แล้วจึงวิ่งไปบอกแม่ว่าผล Gat-Pat ออกแล้ว แม่ผมดูจะตื่นเต้นกับผมด้วย เมื่อพาทวดเดินเล่นเสร็จ จึงรีบกลับบ้านในทันที ในขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมข้าวเย็นกันอยู่ ผมรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องแล้วคว้าเอาสมุดโน๊ตเล็กๆที่จดรหัสลงทะเบียน Gat-Pat เอาไว้ จากนั้นลงมานั่งตรงกลางบันไดในมุมมืดแล้วกดเข้าเว็บไซต์ของ สทศ. ผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ความตื่นเต้นและความกังวลถาโถมเข้าใส่ผมอีกครั้ง มือผมสั่นและเต็มไปด้วยเหงื่อ ผมค่อยๆกรอกรหัสอย่างช้าๆ แล้วกดเข้าสู่ระบบ ปรากฏว่า "กรอกเลขบัตรประชาชนผิดไปหนึ่งตัว" ครับผมยอมรับว่าตื่นเต้นมาก ผมจึงพิมพ์รหัสบัตรประชาชนใหม่อีกครั้งอย่างรอบคอบ มือของผมสไลด์กดตรงปุ่มดูผลสอบอย่างตื่นเต้น ใจอยากจะกำพระในคอไว้แน่นๆ ถาคะแนนออกมาแย่ขอให้มันเป็นเพียงความฝัน ถ้าคะแนนดีเกินคาดถึงจะเป็นฝันผมก็จะไม่ยอมตื่น (55555) ดูยึดติดมาก กดดูผลสอบแล้วคะแนนก็ยังไม่มาครับต้องกดปุ่มเลือกปีที่สอบอีก คราวนี้ล่ะของจริงแล้ว ด้วยความแรงของอินเทอร์เน็ต (แม้จะเป็น edge) แต่ภายในเสี้ยววินาทีผลสอบก็กระโจนใส่หน้าผมในทันที ผมปิดคะแนนแล้วไล่ดูทีละวิชา เมื่อดูเสร็จก็ลองตบหน้าตัวเองดังแปะแปะ อ่าว!นี่มันความจริง (5555) คะแนนของผมดีขึ้นทุกวิชาครับ แต่ก็ยังไม่ดีใจครับเพราะตั้งเกณฑ์ไว้สูง ตอนนั้นรีบเข้าเว็บคำนวณคะแนนตัวเองทันที คะแนนแอดออกมาไม่น่าเกลียดครับ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นทำให้ผมพอใจได้ (ปล่อยวางเถอะลูก) จากนั้นผมรีบโทรหาเพื่อนผมคนนั้นทันทีแล้วรายงานผลคะแนน "เห้ย คะแนนมึงก็ไม่แย่หรอก" เพื่อนผมปลอบ เราคุยกันเรื่องแอด เรื่องความกังวลต่างๆนานาจนผมสบายใจขึ้น ผมนำคะแนนไปบอกแม่และยาย รวมทั้งลูกสาวของทวดซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของยาย ที่แกจะมาเยี่ยมแม่แกทุกเย็น ลูกสาวของทวดเป็นอาจารย์สอนภาษาไทย ที่โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลาครับ แต่ตอนนี้เกษียณแล้วเหมือนกัน ผมรู้จักแกตั้งแต่เด็กแล้วครับถือเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือคนหนึ่งแม้ไม่ใช่ญาติ แกใจดีมาก และคอยถามถึงสารทุกข์สุขดิบของครอบครัวผมเสมอ
      หลังจากทานข้าวเย็นเสร็จผมก็มาดูโทรทัศน์ต่อ นานเท่าไรแล้วนะที่ไม่ได้ดูละครหลังข่าว ความรู้สึกที่คุ้นเคยเมื่อยังเป็นเด็กของผมผุดขึ้นมาอีกครั้ง ผมทิ้งความกังวลเรื่องแอดมิชชัน และคะแนนออกไปเรียบร้อย ผมนึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าอยู่เสมอว่า "ให้อยู่กับปัจจุบัน อย่าไปยึดติดอดีต และกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิด" ผมจะใช้ชีวิตอย่างมีสติ และทำปัจจุบันให้ดีที่สุดครับ แต่ผมก็จะไม่ทิ้งคณะในฝันของผมเช่นกัน อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด สู้ให้ถึงที่สุดครับ!!!
      เมื่อเวลาถึง 22 นาฬิกา ผมจึงอาบน้ำและเข้านอน วันแรกในยะลามีเหตุการณ์ต่างๆมากมายเกิดขึ้น ผมมีความสุขมากที่ได้กลับมายะลา ผมเห็นรอยยิ้มของยาย และน้า ผมได้รับคำทักทายจากเพื่อนสมัยเรียนที่ยะลา มันเป็นสิ่งเล็กๆ แต่มันกลับมอบความสุขที่ยิ่งใหญ่ให้แก่ผม ฝันดีครับ :D

      EP.หน้า ผมจะพาท่านไปเที่ยวที่ไหน เรื่องราวจะเป็นอย่างไร อย่าเพิ่งทิ้งผมไว้กลางทางนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาอ่านจริงๆ ติ-ชมได้นะครับ ผมมือใหม่หัดเขียน ขอบคุณอีกครั้งครับ :)

-SOLSAMA (The Curious Little Boy)




Related Articles

3 comments:

  1. อิจฉาพี่ซอลมีเพื่อนคอยเป็นห่วง อยากรู้จักเพื่อนพี่ซอลจังค่ะ 555555555555555555555

    ReplyDelete
    Replies
    1. อย่าอิจฉาเลยครับ เพื่อนน้องก็น่ารักเหมือนกัน พี่รู้จัก 5555

      Delete
  2. เพื่อนพี่ซอลชื่ออะไรเหรอคะ น้องมีเพื่อนหลายคนไม่ทราบว่าพี่ซอลรู้จักคนไหนเหรอคะ

    ReplyDelete