SAMA'S Story:พาล่องใต้! [EP.6 นั่งรถชมเมือง แช่บ่อน้ำร้อน ณ เบตง ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน !]
สวัสดีครับหายหน้าหายตาไปหลายวัน เนื่องจากกระผมอยู่ในช่วงกำลังศึกษาระเบียบการแอดมิชชันทำให้ไม่มีพลังมากพอในการมาถ่ายทอดทริปนี้
แต่ตามสัญญาครับ วันนี้จิตใจของผมพร้อมแล้ว ผ่านมาแล้วกว่า 6 เอนทรี่ ต้องขอบอกเลยว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ มันไม่ง่ายจริงๆครับ การทำบล๊อกสักบล๊อกหนึ่งใช้ทั้งพลังกาย พลังใจ และพลังสมองมากกกก แต่เนื่องจากทุก EP. ที่ผ่านมาผมทำมันออกมาด้วยความหลงใหลของผมครับ ผมใฝ่ฝันมานานแล้วว่าอยากทำบล๊อกเกี่ยวกับการท่องเที่ยว รีวิวสถานที่สวยๆที่ผู้คนยังไม่ค่อยรู้จัก การที่ได้เห็นยอดวิวของบล๊อกเพิ่มขึ้นมีส่วนช่วยเพิ่มเชื้อไฟให้กับผมอย่างมากเลยครับ ทำให้ผมรู้ว่ามีคนไม่น้อยเลยที่สนใจเนื้อหาในบล๊อกของผม อย่างไรก็ตาม ท่านผู้อ่านทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ ยินดีต้อนรับสู่ทริปล่องใต้สุดสยามอีกครั้งครับ!
เบตง เมืองเล็กๆที่อยู่ในอ้อมกอดแห่งขุนเขาสันกาลาคีรี ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ยังคงสมบูรณ์อีกมากมายรอท่านให้ไปเยี่ยมชม เมืองงามสามวัฒนธรรมที่ผู้คนอยู่ร่วมกันอย่างสันติ อาหารพื้นเมืองที่เกิดจากการผสมผสานจากหลากหลายวัฒนธรรมยังคงรอท่านให้ลิ้มลอง
อย่ามัวร่ำไร เชิญทัศนา!!!
ท่านผู้อ่านที่ยังไม่ได้อ่านตอนก่อนสามารถย้อนกลับไปอ่านได้โดยการคลิกที่ลิงค์ด้านล่างนี้เลยครับ!
*****************************************************************************************************
วันที่ 14 เมษายน 2559: หลังจากที่ทานอาหารกลางวันในเวลา 15 นาฬิกา และสนทนาพาทีกันพอหอมปากหอมคอกันแล้ว "ป้าสวย" (เพื่อนสนิทของคุณแม่) และ"ลุงหล่อ" (สามีของเพื่อนสนิทของคุณแม่) ก็เอ่ยปากชวน"พวกผม" (คุณยาย คุณแม่ คุณน้า น้องชาย และผม) ไปเที่ยวชมบ่อน้ำร้อนเบตง ด้วยกัน หลังจากที่ป้าสวย และลุงหล่อแอบได้ยิน คุณแม่กับพวกผมคุยกันเรื่องที่จะไปเที่ยวบ่อน้ำร้อนกัน บ้านของป้าสวยและลุงหล่อเป็นบ้านสองชั้น สีชมพูสดใส อยู่ห่างจากเมืองเบตงไปไม่ถึง 1 กิโลเมตร ป้าสวยและลุงหล่อ อาศัยอยู่กับลูกชาย (น้องเจมส์) และลูกสาว (พี่ยิ้ม) ปล.ขออนุญาตใช้นามสมมตินะครับ^^
บ่อน้ำร้อนเบตง เดิมเป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่ประกอบไปด้วยแร่ธาตุมากมายมีอาณาบริเวณประมาณ 3 ไร่ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านบ่อน้ำร้อน ตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ห่างจากตัวเมืองเบตงไปทางเส้นทางหมายเลข 410 (ยะลา-เบตง) ประมาณกิโลเมตรที่ 4 และแยกเข้าไปตามเส้นทางแอลฟัลท์คอนกรีตอีกเกือบ 7 กิโลเมตร รวมระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร บริเวณบ่อน้ำร้อนจะมีน้ำร้อนผุดขึ้นมาจากใต้ดิน อุณหภูมิของน้ำประมาณ 80 องศาเซลเซียส สามารถลวกไข่ให้สุกได้ภายใน 7 นาที และยังมีสระน้ำขนาดใหญ่ไว้กักน้ำจากน้ำพุร้อนเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ใช้อาบและแช่เท้าเล่น ซึ่งเชื่อว่าน้ำแร่ในบ่อน้ำร้อนสามารถรักษาโรคภัยได้เป็นอย่างดี เช่น โรคผิวหนัง โรคปวดเมื่อย โรคเหน็บชา เป็นต้น
|
ดอกไม้หน้าบ้านป้าสวย และลุงหล่อ |
เพื่อที่จะไปถึงบ่อน้ำร้อนในช่วงที่แดดไม่แรงมากนัก พวกผม ป้าสวย ลุงหล่อและลูกๆ จึงเริ่มออกเดินทางในเวลา 16 นาฬิกา โดยรถกระบะของลุงหล่อ คุณแม่ คุณยาย คุณน้า ป้าสวย พี่ยิ้ม และลุงหล่อ (คนขับรถ) นั่งอยู่แค๊ปหน้า ส่วนผม น้องชาย และน้องเจมส์นั่งอยู่แค๊ปหลัง ผมดีใจมากเพราะการนั่งท้ายกระบะทำให้ผมถ่ายภาพได้ชัดและสะดวกมากยิ่งขึ้น น้องเจมส์ (ลูกชายของป้าสวยและลุงหล่อ) มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับน้องชายของผม ทำให้สองคนนี้ใช้เวลาเพียงนิด ก็สนิทชิดเชื้อกันได้ดีราวกับสนิทกันมาก่อน ^^ เด็กรุ่นเดียวกันความชอบจึงคล้ายคลึงกัน ส่งผลให้ผมได้ยินแต่ สองคนนี้คุยกันเรื่องแคสเกมกันอย่างเมามันไปตลอดทางไปบ่อน้ำร้อนเลยครับ (55555)
|
ผ่านหน้าโรงเรียนจงฝามูลนิธิ (โรงเรียนสอนภาษาจีนที่เก่าแก่ที่สุดใน อำเภอเบตง) |
|
เริ่มเข้าเมืองเบตงแล้วครับ |
|
หอนาฬิกาคู่บ้านคู่เมืองครับ |
|
ในช่วงฤดูหนาวจะมีนกอพยพจากไซบีเรีย มาเกาะสายไฟบริเวณหอนาฬิกาเต็มไปหมดเลยครับ
"เมืองเบตง"ยังคงรวยเสน่ห์เหมือนสมัยผมยังเด็กไม่เสื่อมคลาย จะมีเปลี่ยนแปลงก็ตรงอาคารบ้านเรือนที่ทาสีใหม่สดใสสวยงาม สภาพถนนในเมืองที่เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงลาดชันไปตามภูเขา นี่ถ้านำรถจักรยานมาด้วยคงปั่นกันหรรษาน่าดู แม้เวลาจะผ่านมานานปี ถนนหนทางจากยะลามาเบตงซึ่งถูกปรับปรุงให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่รถป้ายทะเบียนเบตง ก็ยังคงมีอยู่ทั่วท้องถนนในเมืองเล็กๆแห่งนี้ ใช่ครับ "เบตง" เป็นอำเภอเดียวในประเทศไทยที่มีป้ายทะเบียนรถยนต์เป็นของตัวเอง เนื่องจากในสมัยก่อนเบตงมีสภาพเป็นเหมือนเมืองปิดเพราะถูกห้อมล้อมไปด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน แม้แต่ชาวจีนอพยพยังต้องเข้ามาบุกเบิกอำเภอเบตงทางประเทศมาเลเซีย ทำให้การไปติดต่อราชการที่อำเภอเมืองยะลาซึ่งอยู่ห่างไกลจากอำเภอเบตงมากสร้างความยากลำบากและล้าช้าเป็นอย่างยิ่ง จึงมีกำหนดให้ "เบตง" เป็นอำเภอที่มีป้ายทะเบียนรถเป็นของตนเองได้ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบันครับ
|
|
สีสันแสบตาจริงๆครับ |
|
ถนนที่ไล่ตามระดับความสูงเป็นเอกลักษณ์ |
|
วิถีชีวิตที่ไม่เร่งรีบจนเกินไปครับ |
|
บริเวณตลาดสดครับ
ขับรถชมเมืองมาได้สักพัก ลุงหล่อก็หยุดรถกะทันหันครับ เพราะแกจะไปซื้อไข่ไก่ และไข่นกกระทามาไว้ลวกทานกันที่บ่อน้ำร้อน ตลาดสดที่นี่มีสองชั้นครับ พ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายล้วนเป็นคนต่างเชื้อชาติต่างภาษามาขายของร่วมกัน เดินไปแผงหนึ่งอาจได้ยินเสียงภาษาไทยถิ่นใต้ เดินไปอีกแผงอาจได้ยินเสียงแม่ค้าคุยกันเป็นภาษาจีน (สำเนียงไหนไม่สามารถฟังออกได้จริงๆครับ 5555) เดินถัดไปอีกก็อาจจะได้ยินพ่อค้าแม่ค้าพูดภาษามลายูถิ่น ความเป็นเมืองพหุวัฒนธรรมของเบตง ยังคงอยู่อย่างเหนียวแน่น แม้มีที่มาต่างกันแต่ทุกคนที่นี่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติครับ :)
|
|
ตลาดสดดดด |
|
คราคร่ำไปด้วยผู้คนครับ |
|
ตรอกเล็กๆในตลาด ^^ |
|
สมาคมแม่ค้า ^^ |
|
"เร่เข้ามาจ้า! เร่เข้ามา! ผักผลไม้สดตามฤดูกาล ทานดี มีคุณประโยชน์ครับ"
เมื่อซื้อไข่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ลุงหล่อจึงบึ่งรถกระบะออกจากตลาดในทันที วันนั้นท้องฟ้าโล่งมากครับ ทำให้ผมได้รับวิตามิน D ไปเต็มๆ แหม่ กระดูกแข็งแรงไม่หักไม่เปราะกันเลยทีเดียวครับท่านผู้อ่าน ระหว่างนี้ไม่มีอะไรจะบรรยายมากครับ เชิญทัศนารูปภาพเพลินๆจากเมืองเบตง ไปจนถึงบ่อน้ำร้อนได้เลยครับ
|
|
ออกมาจากตลาด ก็จะพบกับตึกแถวสวยๆแบบนี้ครับ |
|
หอนาฬิกาเป็นศูนย์กลางของเมืองเบตงจริงๆครับ ด้านบนเป็นพิพิธภัณฑ์เมืองเบตง และสวนสาธารณะบนภูเขาครับ
|
|
ออกจากเมืองเบตงแล้ว ซุ้มดูเป็นเมืองพหุวัฒนธรรมมากๆเลยครับ |
|
มองลงไปจากเนินเขาเห็นทิวทัศน์เมืองเบตงอยู่ลิบๆ |
|
ถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้วครับ ตรวจทั้งเข้า ทั้งออกเลยครับ ^^ |
|
เลยด่านตรวจมาไม่ไกลก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเส้นนี้เลยครับ จะมีป้ายบอกทางไปบ่อน้ำร้อนตลาดทาง |
|
ผ่านฮวงซุ้ยด้วยครับ ของจริงมีเต็มภูเขาเลยครับ งดงามมาก น้องเจมส์แซว "พี่จะถ่ายให้หมดทุกอย่างเลยใช่ไหม?"
เลยฮวงซุ้ยมาไม่นานขึ้นเนินลงเนินคดเคี้ยวไปตามขุนเขามาสักพักก็ถึงแล้วครับ "บ่อน้ำร้อนเบตง" เย่! วันนั้นมีนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียมาเยี่ยมชมกันหนาตา รถบัสมากมายจอดเรียงรายกันเต็มถนนเลยครับ ประกอบกับมีงานสงกรานต์ มีเวทีกลางเต้นเพลงหมอลำกันอย่างครึกครื้นคงสร้างความแปลกตาและประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวกันไม่มากก็น้อย บ่อน้ำร้อนถูกปรับปรุงใหม่สวยงามกว่าเดิมมากครับ ไม่มีการเก็บค่าเข้านะครับ^^ เมื่อมาถึงจอดรถเรียบร้อยเสร็จสรรพพวกผมก็รีบปูเสื่อนั่งปิคนิคกันริมบ่อน้ำร้อนครับ ที่นี่มีคนมาปูเสื่อปิคนิคกับแบบผมมากมายเป็นปกติครับ เมื่อจับจองพื้นที่ปูเสื่อเรียบร้อย ผม พี่ยิ้ม น้องเจมส์ และน้องชายผม จึงมุ่งหน้าไปที่บ่อลวกไข่ครับ บ่อลวกไข่เป็นบ่อที่คนไม่สามารถลงแช่ได้นะครับเนื่องจากน้ำมีอุณหภูมิสูงมาก ได้แค่ลวกไข่อย่างเดียว ขืนลงไปไข่คงได้ลวกเป็นแน่แท้^^ ขั้นตอนการลวกไข่ก็ไม่ยากเย็นอะไรครับ เพียงนำไข่ใส่ในถุงแล้วร้อยเชือกเอาไว้ที่ขอบบ่อ (ป้องกันไข่หาย) รอเวลาพอให้ไข่สุกก็ทานได้ครับ แต่เอาเข้าจริงแค่ 7 นาทีไข่มันยังไม่สุกครับ ถ้าเป็นนักเพาะกาย หรือนักมวยคงชอบทาน แต่สำหรับผมแล้วมันดูแหยะๆเลยนำไปแช่ต่อครับ ระหว่างรอลวกไข่ใหผมจึงขอตัวไปถ่ายรูปบรรยากาศบ่อน้ำร้อน แล้วลงไปแช่เท้าให้สบายจิตสบายใจกันที่บ่อแช่สักหน่อยครับ^^
ป้ายทางเข้า
|
|
ครอบครัวสุขสันต์มาปิคนิค ทานไข่ลวกกันครับ^^ |
|
บ่อลวกไข่ครับ ไม่ใช่บ่อไข่ลวก^^ |
|
ซากุระกำลังบานเต็มที่เลยครับ (ล้อเล่นครับ ชมพูพันธ์ทิพย์ต่างหาก) |
|
อ่า!!! มโนว่าอยู่ญี่ปุ่นซะหน่อย 55555 |
|
มีมุมถ่ายรูปด้วยนะ ^^ |
|
แช่น้ำร้อนเสร็จแล้ว ก็มานั่งพักสักหน่อย |
|
แช่เท้ากันสนุกเลยย
การจะแช่บ่อน้ำร้อนต้องค่อยๆจุ่มเท้าลงไปในน้ำก่อนครับ อย่าเอาลงไปทีเดียวทั้งเท้า! ร่างกายจะได้ปรับตัวทัน แช่ไปแรกๆจะรู้สึกร้อนครับ พอแช่ไปเรื่อยๆจะรู้สึกฟินแทน สบายไปทั้งตัวเลยครับ รู้สึกเลือดได้สูบฉีดไปทั่วทั้งสรรพกาย บ่อนี้จะลงไปแช่ทั้งตัวก็ไม่ขัดศรัทธานะครับ แต่ส่วนใหญ่เขาจะแช่กันแค่เท้า ถ้าอยากลงไปว่ายก็จะมีบ่อแยกอีกต่างหากครับ เสียเงินประมาณ 10 บาทครับ สำหรับบ่ออาบทั้งตัว
|
|
อ่ะๆ เซลฟี่กันสักหน่อย ลูก |
|
พญานาค
|
|
"ถ่ายอะไรเนี่ยพี่ พวกหนูกำลังฟิน ออกไป!!!!" |
|
นี่เป็นบ่อแยกสำหรับอาบทั้งตัวครับ ค่าเข้า 10-20 บาทครับ |
|
แวะเข้าห้องน้ำสักหน่อย ^^ |
|
ใครสนใจมาพัก ที่นี่ก็มีบริการที่พักนะครับ
|
|
นักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย มานั่งปิคนิคกันริมบ่อลวกไข่^^ |
|
ร้านอาหารก็มีครับ |
|
ชุมชนรอบๆบ่อน้ำร้อนครับ |
|
เวทีเต้นเพลงหมอลำกันมันกระจายครับ |
|
"1 2 3 Capture!"
แช่เท้า และเตร็ดเตร่ถ่ายรูปมาพอสมควร ไข่คาดว่าน่าจะสุกแล้วผมจึงไปหยิบมาจากบ่อลวกไข่อีกครั้ง แล้วก็พบว่าสุกแต่ไข่นกกระทาครับ จึงนำไข่ไก่ไปลวกต่อ 5555 เพื่อฆ่าเวลารอไข่ไก่สุก ผมจึงไปตระเวณถ่ายรูป และไปเช้าเท้ากันให้สบายกายกันอีกหนหนึ่ง
|
|
สภาพไข่นกกระทาครับ |
|
สมมติว่าอยู่ญี่ปุ่น อีกแล้วครับท่าน!!! |
|
บ่อลวกไข่ครับ |
|
ในบ่อลวกไข่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่เลยครับ (แหงล่ะ 5555 ) มีแต่แร่ธาตุเท่านั้น |
|
วกกลับมาแช่เท้าต่อครับ คนมาเยอะขึ้นแล้ว |
|
สบายเท้าจังงง! พี่แกเล่นลงไปทั้งน่องแล้วครับ 5555
หลังจากถ่ายรูปเสร็จ แช่เท้าจนพอใจแล้ว ผมจึงไปดูไข่ที่บ่อลวกไข่อีกครั้งหนึ่งครับ มีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มใจกล้าครับ เอามือไปลองจุ่มๆน้ำในบ่อลวกไข่ ผมอยากลองมั่งจึงลองหย่อนมือลงไป แต่ยังไม่ทันไปจุ่มน้ำ ผมก็รีบชะงักมือกลับครับ ^^ พอๆเลิกเล่นมาเข้าเรื่องไข่กันดีกว่า ระหว่างที่ผมจะนำไข่ขึ้นมาจากบ่อ ผมก็ต้องเทน้ำออกจากถุงที่ใส่ไข่ด้วยครับ ลืมบอกไปครับเวลาลวกไข่ต้องเจาะรูเล็กๆให้น้ำเข้าที่ถุงใส่ไข่ด้วยนะครับ เวลาไปลวกถุงใส่ไข่จะได้ไม่ลอยน้ำครับ โดยเทน้ำลงไปในบ่อลวกไข่นั่นล่ะ บังเอิญมือผมโดนน้ำเข้าอย่างจังครับเป็นไงหล่ะได้สัมผัสน้ำบ่อลวกไข่สมใจแล้ว (55555) รอบนี้ได้ทานไข่สมใจครับ สภาพไข่ไก่หวานอร่อย สุกประมาณไข่ตานีครับ และมีรสเค็มๆของแร่ธาตุในบ่อน้ำร้อนหน่อยๆด้วยครับ จิ้มกับซีอิ๊วนี่แซบอีหลีเลยครับ^^
|
|
ก่อนปลอกเปลือกครับ |
|
ในที่สุด ได้ทานสักทีครับ ไข่ออนเซ็น เอ้ย ไข่บ่อน้ำร้อนต่างหาก ^^ |
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับ บ่อน้ำร้อนเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา หวังว่าบล๊อกนี้จะช่วยทำให้ท่านผู้อ่านเห็นถึงสภาพความเป็นจริงของวิถีชีวิตของชาวสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่ามีสภาพความเป็นอยู่กันอย่างไร อย่างที่ผมเคยกล่าวไว้ในเอนทรี่ก่อนๆครับว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ถ้าเราใช้ชีวิตอย่างมีสติ เราก็จะปลอดภับครับ
ทานไข่กันอย่างเอร็ดอร่อยแล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับครับ แต่ยังไม่กลับที่พักนะครับ ส่วนผมจะพาไป ณ แห่งหนตำบลไหนของเบตง ก็อย่าลืมติดตามผมใน EP. หน้าด้วยนะครับ สำหรับเอนทรี่นี้ขอลาไปก่อน ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะครับ♥
-SOLSAMA
0 comments:
Post a Comment